ปักหมุด 20 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ธรรมชาติสมบูรณ์ บรรยากาศเงียบสงบ

ใครกำลังมองหาที่เที่ยวใกล้กรุงเทพธรรมชาติสวย ๆ ที่สามารถเดินทางได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาขับรถไกล เพื่อให้คุณสามารถพักผ่อนฮีลใจได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในบทความนี้เซเรนนาต้า โรงแรมและรีสอร์ท กรุ๊ป จะมาแจกพิกัดที่เที่ยวใกล้กรุงเทพธรรมชาติสมบูรณ์ เดินทางสะดวก ให้คุณปักหมุดพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้อย่างสบายใจ จะมีที่เที่ยวไหนที่คุณยังไม่รู้จัก หรือถูกใจบ้าง ไปดู 20 พิกัดที่เรารวบรวมมาให้ได้เลย!

ปักหมุด 20 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพธรรมชาติสมบูรณ์ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน

สำหรับที่เที่ยวใกล้กรุงเทพธรรมชาติสวย ๆ ที่เรารวบรวมมาให้ จะเป็นที่เที่ยวที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ แล้วจะมีที่เที่ยวอะไรบ้าง ไปดูกัน

1. สถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ

1. สถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ

เริ่มต้นกันด้วยที่เที่ยวใกล้กรุงเทพธรรมชาติสวยงาม ที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบายแม้ไม่มีรถยนต์ โดยสามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสไปลงสถานีเคหะ แล้วนั่งรถสองแถวหรือใช้บริการรถตู้เพื่อนั่งไปยังบางปูได้ ซึ่งภายในสถานตากอากาศบางปูจะสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตก และฝูงนกนางนวลที่บินมาให้ถ่ายรูปสวย ๆ ได้อย่างอิสระ หรือจะแวะทานอาหารทะเลจากร้านอาหารบริเวณนั้นก็ได้เช่นกัน

2. อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ จ.นครนายก

2. อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ จ.นครนายก

มาต่อกันที่อ่างเก็บน้ำที่สามารถนั่งพักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์สวย ๆ และวิวพระอาทิตย์ตกรอบอ่างเก็บน้ำได้แบบพาโนรามา นอกจากนี้ยังสามารถพาครอบครัวมาปั่นจักรยานออกกำลังกายได้อย่างสนุกสนาน สำหรับคนที่มาเที่ยวในช่วงฤดูหนาว หรือฤดูฝนก็อาจจะเห็นหมอกลอยอยู่บนผิวน้ำได้อีกด้วย

3. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง จ.สุพรรณบุรี

3. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง จ.สุพรรณบุรี

อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง หรือปางอุ๋งสุพรรณ เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพที่มีธรรมชาติสวยงาม และมีโฮมสเตย์สวย ๆ ให้ไปพักผ่อน โดยในช่วงเช้าจะสามารถเห็นหมอกเบา ๆ อยู่บริเวณผิวน้ำ ทำให้มีบรรยากาศคล้ายกับปางปุ๋งที่แม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำอย่างหลากหลาย เช่น การล่องแพชมธรรมชาติ กางเต็นท์แคมป์ปิ้ง และการท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน เป็นต้น

4. เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี

4. เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี

เขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี เป็นหมุดหมายสำคัญของคนที่ชื่นชอบการเดินป่า หรือแคมป์ปิ้ง โดยเขาช้างเผือกนับว่าเป็นเส้นทางเทรคกิ้งในไทยที่มีความท้าทายทั้งเส้นทาง และการจอง เนื่องจากเป็นเส้นทางที่เปิดให้เที่ยวแค่ปีละครั้ง ในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์เท่านั้น นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะต้องขึ้นเขาไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เท่านั้น ไม่สามารถเดินทางด้วยตัวเอง ดังนั้น ถ้าคุณอยากลองสัมผัสความท้าทายแบบนี้สักครั้ง ก็อย่าลืมจดวันที่เปิดจองคิว และหาวิธีจองคิวให้ได้

นอกจากนี้ สำหรับคนที่อยากพักผ่อนและท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีให้คุ้ม ก็สามารถแวะเข้าไปพักผ่อนที่ ริเวอร์เเคว รีโซเทล รีสอร์ท (River Kwai Resotel Resort) รีสอร์ทที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมกิจกรรมมากมายให้ผู้เข้าพักได้พักผ่อนและทำกิจกรรมได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น การพายซัพบอร์ด การล่องเรือชมวิวบนแม่น้ำสายประวัติศาสตร์ พายเรือคายัคล่องตามกระแสน้ำในลำน้ำแคว ล่องแพ้ไม้ไผ่ในแบบฉบับท้องถิ่น นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น หมู่บ้านมอญ วัดมอญ ถ้ำละว้า สวนผลไม้ เป็นต้น

5. น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี

5. น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี

สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไปเล่นน้ำเย็น ๆ คลายร้อน ต้องห้ามพลาดที่นี่เลย! น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี น้ำตกสีเขียวมรกตที่มีทั้งหมด 7 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะมีแอ่งให้ลงเล่นน้ำ และความสวยงามที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ผ่านป่าดิบเขาให้คุณได้ชื่นชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยบริเวณน้ำตกเอราวัณ จะมีร้านอาหารและร้านค้าของอุทยานไว้คอยบริการอยู่ ทำให้สามารถใช้เวลาอยู่บริเวณนั้นได้ตลอดทั้งวันเลยล่ะ

หรือจะไปแวะพักผ่อน ณ โฮมพุเตย ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Home Phutoey River Kwai) ที่พักที่มีสระน้ำแร่ร้อนกลางแจ้งที่ได้แหล่งน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติใต้พิภพ (Thermal Hotspring Pool) และกิจกรรมผจญภัยบนยอดไม้ หรือ Treetop Adventure Park ที่มีกิจกรรมให้เล่นมากถึง 40 ฐาน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยระดับนานาชาติ รับรองเลยว่าการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณจะคุ้มค่าอย่างแน่นอน

6.-พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด-จ.กาญจนบุรี

6. พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด จ.กาญจนบุรี

เมื่อพูดถึงที่เที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงแม่น้ำแควที่ทอดยาว และน้ำตกที่สวยงาม แต่อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มีความสำคัญไม่แพ้กันและต้องมาเยือนเมื่อมาถึงก็คือ พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะทำให้คุณได้ศึกษาประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยภายในพิพิธภัณฑ์จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ส่วนจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคาร ที่คุณสามารถเดินชมงานจัดแสดงในอาคารที่ติดแอร์ทั้งชั้นได้ ไม่ต้องกลัวร้อน และอีกส่วนหนึ่งก็คือ ช่องเขาขาด สถานที่จริงที่นักโทษสงครามได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก แม้ว่าจะไม่ได้มีกิจกรรมให้ทำมากมาย แต่ก็ทำให้คุณได้ความรู้ประวัติศาสตร์ไปมากพอสมควร

แน่นอนว่า หากคุณกำลังมองหาที่พักที่อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด หินตก ริเวอร์แคมป์ ณ ช่องเขาขาด (Hintok River Camp @ Hellfire Pass) แคมป์ปิ้งรีสอร์ทแนวแกลมป์ปิ้งที่ดีที่สุดในเมืองกาญฯ ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เพราะคุณสามารถเยี่ยมชมประวัติศาสตร์ทางรถไฟสายมรณะ และพิพิธภัณฑ์หินตกที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย

7. สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

7. สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีธรรมชาติสวยงาม และกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกมากมาย โดยบริเวณนั้นจะมีทั้งสวนดอกไม้ ฟาร์มผึ้ง น้ำตก และตลาดเช้าริมน้ำชื่อดังอย่างตลาดโอ๊ะป่อย ที่สามารถชมวิถีชาวกะเหรี่ยง และตักบาตรพระล่องแพ นอกจากนี้ยังมีฟาร์มแกะที่มีสัตว์น่ารัก ๆ และกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำอีกด้วย 

8. ชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

8. ชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ชายหาดหัวหิน เป็นหาดทรายที่สวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในการมาพักผ่อนหย่อน โดยบริเวณชายหาดจะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น เล่นบานาน่าโบ๊ท เดินเล่นริมทะเล ว่ายน้ำ ขี่ม้าชมวิว เป็นต้น ซึ่งหากคุณเลือกที่พักที่ติดชายหาด ก็จะสามารถพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบายและเป็นส่วนตัว

และถ้าคุณวางแผนจะไปพักผ่อน ณ ชายหาดหัวหินแต่ยังไม่มีที่พักที่ถูกใจ สามารถแวะเข้ามาเยี่ยมชมและพักผ่อนที่ เดอะ ร็อค หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา (The Rock Hua Hin Beachfront Resort and Spa) ที่พักและพูลวิลล่าระดับ Luxury ในหัวหิน ที่อยู่ติดกับชายหาดหัวหิน สามารถเดินไปบริเวณชายหาดได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังถูกออกแบบด้วยแนวคิด Initimately Elegant ที่ให้คุณเต็มอิ่มกับวิวทะเลแบบพาโนราม่าของทะเลอ่าวไทย จากสระว่ายน้ำริมทะเลแบบ Infinity Edge Pool 

9. เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

9. เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานที่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ภูเขา น้ำตก และสายธารธรรมชาติมากมาย ซึ่งคนที่ไปเที่ยวที่เขาใหญ่ สามารถขับรถขึ้นไปเพื่อชมธรรมชาติที่สวยงาม เดินป่า ชมนก และเล่นน้ำตกได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนยังมีกิจกรรมส่องสัตว์ อีกทั้งยังมีที่พักของอุทยานและจุดกางเต็นท์ให้พักผ่อนได้อีกด้วย

10. เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี

10. เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี

เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา มีสวนผลไม้ วัดวาอารามสวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความร่มรื่นและเงียบสงบ ซึ่งบนเกาะจะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่สำหรับนั่งทานอาหารและถ่ายรูป  กิจกรรมเวิร์คช็อปปั้นดินเผา ปั่นจักรยานชมวิถีชีวิตรอบเกาะเกร็ด หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศไปพักผ่อนที่โฮมสเตย์ก็ได้เช่นกัน

11. ตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม

11. ตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม

ย้อนเวลากลับไปสัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำ กับตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำอันร่มรื่นที่คุณสามารถเดินเล่น ทานอาหารอร่อย ๆ และเลือกซื้อของฝากได้อย่างสะดวกสบาย ในช่วงเย็นก็สามารถชมบรรยากาศตลาดน้ำยามค่ำคืน และล่องเรือชมหิ่งห้อยได้อีกด้วย สำหรับคนที่อยากจะเปลี่ยนที่นอน ใช้ชีวิต Slow Life ก็มีที่พัก โรงแรม และโฮมสเตย์ไว้คอยให้บริการด้วยเช่นกัน

12. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย

12. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นแหล่งรวมโบราณสถานและโบราณวัตถุมากมายที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเมืองเก่า และวิวทิวทัศน์อันสวยงามที่ให้บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปสมัยกรุงสุโขทัย นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีวัดสวย ๆ มากมายให้คุณได้เยี่ยมชมอีกด้วย

และเพื่อให้คุณสามารถเยี่ยมชมสถานที่โดยรอบได้อย่างจุใจ พร้อมพักผ่อนในที่พักสไตล์บูติครีสอร์ท เลอชาร์ม สุโขทัยรีสอร์ท (Le Charme Sukhothai Historical Park Resort) ก็นับว่าเป็นที่พักที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะอยู่ใกล้กับอุทยานประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีการออกแบบที่ผสมผสานการตกแต่งแบบไทยร่วมสมัยกับประวัติศาสตร์ของกรุงสุโขทัยได้อย่างลงตัว 

13.-เขื่อนศรีนครินทร์-จ.กาญจนบุรี

13. เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี

เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา โดยบริเวณรอบเขื่อนจะมีพื้นที่กว้างขวาง และมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สันเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่สามารถชมวิวได้แบบพาโนรามา อาคารเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการทำงานของเขื่อน สวนเวลารำลึกและนาฬิกาแดด อีกทั้งยังใกล้กับที่พักและร้านอาหารมากมาย รับรองว่าถ้าได้แวะมาคุณจะสามารถฮีลใจได้อย่างแน่นอน

และถ้าคุณกำลังมองหาที่พักที่สามารถฮีลกายจากความเหนื่อยล้า ก็สามารถแวะพักผ่อนที่ คำแสด ริเวอร์แคว รีสอร์ท (Comsaed River Kwai Resort) รีสอร์ทติดริมน้ำในจังหวัดกาญจนบุรี ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น กับบรรยากาศสไตล์วินเทจที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เรียบง่าย บนพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่กว่า 2,400 ต้น เป็นจุดพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบในการท่องเที่ยวเมืองกาญฯ 

14. อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี

14. อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี

อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ เป็นพื้นที่ที่ประกอบไปด้วยภูเขาหินปูนที่สลับซับซ้อน และถ้ำที่มีความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น ถ้ำธารลอดน้อย และถ้ำธารลอดใหญ่ โดยจุดไฮไลต์ก็คือ หินงอก-หินย้อยที่อยู่บริเวณถ้ำธารลอดน้อย รวมถึงธารน้ำที่ไหลผ่านภายในถ้ำ แต่ที่เที่ยวนี้อาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุหรือคนที่มีโรคประจำตัวสักเท่าไหร่ แต่สำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ หรือคนที่ชอบการเที่ยวถ้ำก็คงจะถูกใจอยู่ไม่น้อย

15. ศรีอยุธยา ไลอ้อน ปาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา

15. ศรีอยุธยา ไลอ้อน ปาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา

จังหวัดอยุธยา ไม่ได้มีแค่วัดวาอารามให้เที่ยวเท่านั้น แต่ยังมีสวนสัตว์เปิดใหม่ที่สามารถขับรถไปเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับได้อีกด้วย เหมาะกับการพาเด็ก ๆ หรือสมาชิกในครอบครัวไปชมโชว์และถ่ายรูปกับสัตว์ต่าง ๆ ได้ นับว่าเป็นที่เที่ยวที่สามารถเปิดประสบการณ์ดี ๆ ให้กับครอบครัวได้อย่างแท้จริง

16. หาดบางแสน จ.ชลบุรี

16. หาดบางแสน จ.ชลบุรี

เปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวทะเล กับชายหาดที่อยู่ใกล้กรุงเทพอย่างหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี ที่เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ก็สามารถไปเดินเล่น นั่งชมวิว รับลมทะเลเย็น ๆ และอร่อยกับอาหารทะเลสด ๆ จากร้านอาหารที่ตั้งอยู่รอบ ๆ ได้แล้ว สำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ชอบการถ่ายรูป ก็มีคาเฟ่เก๋ ๆ ให้เลือกมากมายเช่นกัน

17. น้ำตกนางรอง จ.นครนายก

17. น้ำตกนางรอง จ.นครนายก

น้ำตกนางรอง เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพธรรมชาติสวย ๆ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองนครนายกไปประมาณ 20 กิโลเมตร อีกทั้งยังสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่หากไปในช่วงฤดูฝนก็อาจจะต้องระมัดระวังน้ำป่า หรือกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวสักหน่อย สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดก็คือ ช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะคุณสามารถเห็นหมอกเบา ๆ อยู่บนผืนน้ำ ดูสวยงามไม่น้อย

18. บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ

18. บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ

เปลี่ยนบรรยากาศมาปั่นจักรยานชิว ๆ รับอากาศบริสุทธิ์กันที่บางกระเจ้า ปอดกลางกรุงที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียวรูปกระเพาะหมู ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นพื้นที่สีเขียวสบายตา อีกทั้งยังมีต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด ให้บรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีพิพิธภัณฑ์ ตลาดน้ำ ร้านอาหาร คาเฟ่ และโฮมสเตย์มากมายไว้คอยให้บริการ

19. แก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี

19. แก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี

แก่งหินเพิง เป็นสถานที่ล่องแก่งที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย โดยในช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม จะมีการจัดเทศกาลล่องแก่งหินเพิงเป็นประจำทุกปี ซึ่งคุณจะได้สนุกสนานกับเส้นทางล่องแก่งยาว 3-4 กิโลเมตร อีกทั้งยังสามารถลงเล่นน้ำเย็น ๆ ได้อีกด้วย

20. เกาะแสมสาร จ.ชลบุรี

20. เกาะแสมสาร จ.ชลบุรี

เกาะแสมสาร เป็นเกาะที่อยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ และเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทำให้ไม่สามารถพักค้างคืนบนเกาะได้ โดยบนเกาะจะสามารถเล่นน้ำได้แค่ 2 หาด ได้แก่ หาดเทียน และหาดลูกลม อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดำน้ำหน้าหาด นั่งเรือท้องกระจก พายเรือ ขี่จักรยาน และเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เป็นต้น 

พักผ่อนสบายใจ กับ 20 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพธรรมชาติสวยงาม

และทั้งหมดนี้ก็คือ 20 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เดินทางสะดวกที่เรารวบรวมมาให้ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ก็นับว่าเป็นสถานที่ที่มีธรรมชาติสวยงาม และบรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริป หรือไปเช้าเย็นกลับ ก็อย่าลืมเช็กเวลาเปิด-ปิด และวางแผนทริปให้ดี ส่วนคนที่ไปเที่ยวแบบพักค้างคืน ก็ควรจะหาที่พักที่สามารถเดินทางได้สะดวก ใกล้ที่เที่ยวที่อยากไป เพื่อให้คุณไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางมากจนเกินไปด้วยเช่นกัน

ตรวจสอบราคาและห้องว่าง